คนท้อง กินน้ำมะพร้าวได้ไหม เสี่ยงแท้ง หรือเป็นอันตรายต่อทารก ในครรภ์หรือไม่ ??

“ คนท้อง ดื่มน้ำมะพร้าวได้ไหม ? ” หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ถูกพูดถึงเสมอ การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขและความกังวล โดยเฉพาะเรื่องอาหารและเครื่องดื่มที่คุณแม่ต้องระวังเป็นพิเศษ  มีความเชื่อบางอย่างที่เกี่ยวกับน้ำมะพร้าว เช่น อาจทำให้แท้ง หรือส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ แล้วจริงๆ แล้วเป็นอย่างไรกันแน่ ? บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยและให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์กันค่ะ

ความเชื่อเกี่ยวกับ น้ำมะพร้าว กับ คนท้อง

น้ำมะพร้าว หนึ่งในเครื่องดื่มธรรมชาติที่หลายคนมองว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว น้ำมะพร้าวปลอดภัยหรือเปล่า ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ? เรามีคำตอบมาให้ แต่ก่อนอื่นมาดูเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับน้ำมะพร้าวกับการตั้งครรภ์กันก่อน ว่ามีความเชื่ออะไรบ้างที่คนเก่าก่อนมักพูดต่อๆ กันมา

• ความเชื่อ :  แม่ท้องดื่มน้ำมะพร้าว เสี่ยงแท้ง  เพราะเชื่อว่าน้ำมะพร้าวเป็นของเย็นที่อาจทำให้มดลูกบีบตัวจนเสี่ยงแท้งได้

• ความจริง  : ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า น้ำมะพร้าวทำให้แท้ง หรือเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์โดยตรง ความเชื่อเรื่อง " น้ำมะพร้าวเป็นของเย็น " หรือ " ทำให้มดลูกบีบตัว " นั้นเป็นเพียงความเชื่อทางภูมิปัญญาชาวบ้านที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ การดื่มน้ำมะพร้าวในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ 1 แก้ว/วัน จึงไม่มีผลต่อการบีบตัวมดลูกที่ทำให้แท้งบุตรได้

  
  

• ความเชื่อ : น้ำมะพร้าวช่วยล้างไขทารกได้ บางคนเชื่อว่าดื่มน้ำมะพร้าวจะช่วยให้ลูกคลอดออกมาผิวใสสะอาด เพราะไขที่เคลือบตัวทารกจะน้อยลง

• ความจริง :  ไขของทารกในครรภ์นั้น โดยปกติทารกในครรภ์ช่วง 5 เดือนจะเริ่มมีการสร้างไขขึ้นมา เพื่อช่วยให้ผิวทารกชุ่มชื้น ป้องกันแบคทีเรีย และไขของทารกในครรภ์นั้น ยังเป็นตัวหล่อลื่น ช่วยให้คลอดออกมาทางช่องคลอดได้ง่ายขึ้นด้วย เมื่อดื่มน้ำมะพร้าวที่มีทั้งไขมันทั้งอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว จะทำให้ไขสีขาวขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้ลูกคลอดออกมาไม่มีไข เพราะปกติแล้วเมื่ออายุครรภ์ครบกำหนด ไขเหล่านี้จะลดน้อยลงหายไปเองตามธรรมชาติ

  
  

• ความเชื่อ : ไม่ควรดื่มช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ : มีความเชื่อว่าน้ำมะพร้าวเหมาะสำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายเท่านั้น

• ความจริง : การดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ อาจทำให้บางคนรู้สึกคลื่นไส้หรือท้องอืด เนื่องจากระบบย่อยอาหารในช่วงนี้อ่อนไหวง่าย

ประโยชน์ของน้ำมะพร้าวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

น้ำมะพร้าวไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มดับกระหาย แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย ดังนี้

1. ช่วยบำรุงน้ำคร่ำ : น้ำมะพร้าวมีส่วนช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลดีต่อปริมาณน้ำคร่ำในถุงน้ำคร่ำ การดื่มน้ำที่เพียงพอ รวมถึงน้ำมะพร้าว อาจช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะน้ำคร่ำลดน้อยลง และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของทารก

2. เติมความสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย : ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนอาจรู้สึกเหนื่อยล้า น้ำมะพร้าวที่มีอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) เช่น โพแทสเซียม และแมกนีเซียม จะช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น

3. ลดอาการท้องผูก  : การตั้งครรภ์อาจทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณแม่ทำงานช้าลง น้ำมะพร้าวมีไฟเบอร์ในปริมาณเล็กน้อยที่ช่วยส่งเสริมการขับถ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ ลดอาการท้องผูกที่เป็นปัญหากวนใจคุณแม่หลายคน

4. ช่วยควบคุมน้ำหนักและป้องกันเบาหวานในครรภ์ : น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลตามธรรมชาติในปริมาณไม่สูง และมีแคลอรี่ต่ำ เมื่อเทียบกับน้ำหวานหรือเครื่องดื่มอื่นๆ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและป้องกันความเสี่ยงของโรคเบาหวานในระหว่างตั้งครรภ์

5. เสริมภูมิคุ้มกันให้คุณแม่และลูกน้อย  : น้ำมะพร้าวมีกรดลอริก (Lauric Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดดีที่พบในน้ำนมแม่ มีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณแม่และทารกในครรภ์แข็งแรงขึ้น

6. ลดอาการบวมน้ำ  :  โพแทสเซียมในน้ำมะพร้าวมีส่วนช่วยในการขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดอาการบวมน้ำซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3

7. ช่วยรักษาความสมดุลของฮอร์โมน : น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของต่อมไทรอยด์และฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดความแปรปรวนของอารมณ์ในช่วงตั้งครรภ์ได้

ข้อควรระวังในการดื่มน้ำมะพร้าวของคุณแม่ตั้งครรภ์

แม้ว่าน้ำมะพร้าวจะมีประโยชน์มากมาย แต่การดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงตั้งครรภ์ก็มีข้อควรระวังที่คุณแม่ควรใส่ใจเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของทั้งแม่และลูกน้อยในครรภ์ ดังต่อไปนี้

1. ไม่ควรดื่มในปริมาณมากเกินไป : การดื่มน้ำมะพร้าวในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในคุณแม่ที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรจำกัดปริมาณการดื่มให้เหมาะสม เช่น วันละ 1 แก้ว (ประมาณ 250 มิลลิลิตร)

2. ควรดื่มน้ำมะพร้าวสดเท่านั้น : น้ำมะพร้าวที่ผ่านกระบวนการผลิตหรือบรรจุขวดอาจมีการเติมน้ำตาล สารกันบูด หรือสารปรุงแต่งอื่นๆ ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เลือกน้ำมะพร้าวสดจากแหล่งที่สะอาดและน่าเชื่อถือจะดีที่สุด

3. ระวังเรื่องความสะอาด : น้ำมะพร้าวที่ไม่ได้มาจากแหล่งที่สะอาดอาจปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยได้ หากไม่มั่นใจในคุณภาพของน้ำมะพร้าว ควรหลีกเลี่ยง

4. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะพร้าวเย็นจัด :  การดื่มน้ำมะพร้าวที่แช่เย็นจัดอาจทำให้บางคนมีอาการท้องอืดหรือท้องเสียได้ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนไหวในช่วงตั้งครรภ์

5. หลีกเลี่ยงการดื่มในช่วงที่มีอาการแพ้ท้องรุนแรง : ในช่วงไตรมาสแรก คุณแม่ที่มีอาการคลื่นไส้หรือแพ้ท้องหนัก อาจรู้สึกไม่สบายตัวหลังดื่มน้ำมะพร้าว เนื่องจากระบบย่อยอาหารยังปรับตัวได้ไม่ดี หากดื่มแล้วรู้สึกไม่สบาย ควรหยุดดื่มทันที

6. ปรึกษาแพทย์ หากมีโรคประจำตัว : สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะสุขภาพเฉพาะทาง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มน้ำมะพร้าว เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

7. สังเกตอาการแพ้ : แม้ว่าการแพ้น้ำมะพร้าวจะพบได้ไม่บ่อย แต่บางคนอาจมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน คลื่นไส้ หรืออาเจียน หากเกิดอาการเหล่านี้ ควรหยุดดื่มทันทีและปรึกษาแพทย์

สรุปได้ว่า คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้ ตราบใดที่ดื่มในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกน้ำมะพร้าวที่สดสะอาด น้ำมะพร้าวไม่เพียงแต่ไม่ทำให้แท้ง แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ยังมีข้อกังวลหรือสุขภาพเฉพาะทาง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

คุณแม่ตั้งครรภ์อย่าลืมดูแลตัวเองในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงและเติบโตอย่างสมบูรณ์นะคะ