top of page
Writer's pictureregagar

คนท้อง กับ 9 ข้อห้ามที่ต้องรู้

คนท้อง หรือคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคน คงรู้ถึงวิธีการดูแลตัวเองใช้เวลาตั้งครรภ์กันอยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงระยะเวลาสำคัญในการพัฒนาอวัยวะต่าง ๆ ของลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่ท้องทุกท่านจึงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นเป็นพิเศษ


แต่คุณแม่ตั้งครรภ์มือใหม่ หรือคุณแม่ท้องหลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า ในช่วงระยะเวลาที่เราตั้งครรภ์อยู่นั้น ก็มีเรื่องต้องห้ามที่ควรรู้อยู่ด้วย เนื่องจากสิ่งต้องห้ามเหล่านี้อาจจะไปกระทบต่อพัฒนาการ การเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ รวมถึงเรื่องของสุขภาพของทารกในครรภ์และของตัวคุณแม่เองด้วยนั่นเอง ซึ่งวันนี้เรามี 10 ข้อห้ามมาเตือนให้คุณแม่พึงระวังกันค่ะ


คนท้อง กับ 9 ข้อห้ามที่ต้องรู้

10 ข้อห้ามที่คนท้อง หรือคุณแม่ตั้งครรภ์ควรพึ่งระวังมีอะไรบ้าง และจะมีผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์อย่างไร วันนี้เรามาดูไปพร้อมกันเลย


  1. ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสิ่งที่ห้ามโดยเด็ดขาด เพราะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์โดยตรง อาจทำให้คลอดก่อนกำหนด และเสี่ยงถึงขั้นแท้งได้เลย หรืออาจจะทำให้เมื่อคลอดมาแล้ว ลูกน้อยมีพัฒนาการช้ากว่าปกติ และเสี่ยงมาก ๆ ที่จะเกิดความผิดปกติทางร่างกาย หรือมีความพิการทางร่างกายที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ อย่างเช่น ของหมักดอง อาหารรสจัด อาหารกระป๋อง น้ำอัดลม แม้ว่าจะไม่ได้มีผลร้ายแรง แต่ก็อาจทำให้คุณแม่ไม่สบายตัว และอาจมีสารเคมีป่นเปื้อนส่งผลกระทบต่อไปยังทารกในครรภ์ได้นั่นเอง

  2. ห้ามดื่มนมทุกวัน หรือมากกว่าวันละ 1 แก้ว คุณแม่ท้องหลาย ๆ คนอาจกำลังเข้าใจผิดว่า เมื่อตั้งท้องแล้วจะสูญเสียแคลเซียมในร่างกายไปให้ลูกน้อยหมด และการดื่มนมจะช่วยเพิ่มแคลเซียมให้คุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ แต่ความเป็นจริงการดื่มวัว หรือนมถั่วเหลืองที่มากเกินกว่า 1 แก้วนั้นเกินความจำเป็น และเสี่ยงที่จะทำให้ลูกน้อยมีภาวะแพ้นมวัวในตอนที่คลอดออกมาแล้วด้วย เพราะในนมวัวมีโปรตีนจำนวนมาก การดื่มมากไปก็ทำให้เด็กในครรภ์รับ Antigen มากเกินไป และร่างกายของทารกก็จะสร้าง Antibody มาต่อต้านสารโปรตีนในนมวัวได้ เมื่อคลอดออกมาลูกน้อยจึงมีความเสี่ยงแพ้นมวัวนั่นเอง หากคุณแม่ต้องการแคลเซียมเพิ่มในระหว่างการตั้งครรภ์ แนะนำให้ทานอาหารชนิดอื่นที่เสริมแคลเซียมได้ อย่างเช่น ปลา ผักใบเขียว อัลมอนด์ งาดำ เป็นต้น

  3. ห้ามทานยาโดยไม่ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นยาโรคประจำตัว หรือโรคทั่วไปคุณแม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชก่อนทุกครั้ง ยิ่งในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรกยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว เพราะช่วงที่ทารกในครรภ์เริ่มมีพัฒนาการทางระบบประสาทและอวัยวะต่าง ๆ การที่คุณแม่ท้องทานยาพร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะกลุ่มยาลดสิว ที่มีวิตามิน A เป็นส่วนประกอบ อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้อย่างร้ายแรง เช่น พัฒนาการเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ เสี่ยงปากแหว่งเพดานโหว่ แขนขาพิการ เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะใช้ยาอะไร จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนเสมอ

  4. ห้ามลดน้ำหนัก ในช่วงการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้รู้สึกอ้วนขึ้น แต่เพื่อลูกน้อยในครรภ์ไม่แนะนำให้คุณแม่ลดน้ำหนัก อดอาหาร เพราะอาจทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่จะไปเสริมสร้างพัฒนาการการเจริญเติบโตได้ไม่เพียงพอ และเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดได้อีกด้วย

  5. ห้ามเครียด หรือวิตกกังวล คุณแม่ทราบหรือไม่ การเกิดภาวะเครียดมากๆ ในขณะตั้งครรภ์ มีผลต่อลูกน้อยในครรภ์โดยตรง ทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการช้า และความเครียดความกังวลนั้นก็ทำให้คลอดก่อนกำหนด หรือมีโอกาสแท้งได้สูงเลยทีเดียว เนื่องจากเมื่อคุณแม่ท้องเกิดความเครียดมากๆ จะไปกระตุ้นให้ผลิตสารเคมีและฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ออกมามากขึ้น และไปทำให้หลอดเลือดตีบ ทำให้ทารกในครรภ์ได้รับปริมาณออกซิเจนไม่เพียงพอนั่นเอง และหากลูกน้อยคลอดออกมาในภาวะที่คุณแม่มีความเครียด ก็มักจะมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ และเสี่ยงเป็นโรคอื่นๆ อีกด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น

  6. ห้ามยกของหนัก คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแลตัวเองอย่างดี การยกของที่มีน้ำหนักมาก จะทำให้แรงดันไปอยู่ที่มดลูก และการยกของหนัก อาจทำให้การนอนของทารกในครรภ์มีปัญหาได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ลูกน้อยในครรภ์มีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ และอาจเสี่ยงถึงขั้นแท้งลูกได้

  7. ห้ามยืนหรือนอนนานเกินไป ในช่วงอายุครรภ์ 5 เดือนขึ้นไป คุณแม่ท้องไม่ควรเดิน หรือยืนนานเกินไป เพราะอาจทำให้ขาบวม เท้าบวม จนเกิดเป็นเส้นเลือดขอดได้ และยังเสี่ยงต่อการเป็นข้อเข่าเสื่อมด้วย การนอนก็เช่น เพราะน้ำหนักท้องหรือครรภ์จะไปกดทับกระเพราะอาหาร ลำไส้ ทำให้มีอาการจุกเสียดได้ และยังทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวกอีกด้วย แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เปลี่ยนอิริยาบถในระหว่างวันทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ยืดเส้นยืดสายลดอาการปวดเมื่อยด้วย

  8. ห้ามอบไอน้ำและอบซาวน่า เพราะเสี่ยงแท้งได้ เพราะความร้อยจากการอบไอน้ำหรืออบซาวน่าจะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ขาดน้ำ และเกลือแร่ที่จำเป็นไป ทำให้เลือดข้น จนเส้นเลือดอุดตัน และเมื่อเลือดไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ไม่เพียงพอ ก็มีผลต่อการเจริญเติบโต และเสี่ยงแท้งได้นั่นเอง

  9. ห้ามทำความสะอาดมูลแมว เนื่องด้วยในมูลของแมวนั้นมีสารท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) มีเชื้อปรสิตที่แมวเป็นพาหะ ที่อาจทำให้คุณแม่ท้องติดเชื้อ และส่งต่อไปยังลูกน้อยในครรภ์ทำให้เกิดความผิดปกติ ติดเชื้อ เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทและสมอง การได้ยิน ตับม้ามโต ตัวเหลือง หัวโต และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้


เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องห้ามทำทั้ง 9 ข้อข้างต้นนี้ รวมไปถึงควรดูแลตัวเอง ทารอาหารให้ครบ 5 หมู่ถูกหลักโภชนาการ ออกกำลังเบาๆ อย่างโยคะ หรือว่ายน้ำ และทำจิตใตให้สบาย มีความสุข ไม่เครียด และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์คลอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์และปลอดภัยนะคะ

Comments


bottom of page